😰Ransomware หรือ ไวรัสเรียกค่าไถ่

ต้องรู้ ! วิธีป้องกัน เอาชนะ Ransomware

เป็นที่ทราบกันดีว่า Ransomware หรือ ไวรัสเรียกค่าไถ่ เป็นที่ระบาดหนักในกลุ่มคนที่ใช้ Windows Server หรือบน คอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ (Windows OS) มักจะเจอกับเจ้า WannaCry Ransomware ทำให้ข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ถูกเข้ารหัสและไม่สามารถกู้คืนได้ มีบางกรณีที่มีการจ่ายเงินให้กับ Hacker แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลคืนอยู่ดี วันนี้เรามาเจาะไปทีละประเด็นแบบกระชับและรวบรัด เพราะจริงๆ แล้ว Ransomware แบ่งได้หลายประเภทมากๆ เพราะมันไม่ได้หมด หรือลดลงไป ในทางตรงกันข้ามกลับมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ

Ransomware โจมตีได้อย่างไร ?

Ransomware จะโจมตีด้วยการเข้ารหัสข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ และเก็บ key ถอดรหัสไว้เป็นตัวประกันโดนจะบังคับให้เราจ่ายเงินเพื่อแลกกับ key ถอดรหัสข้อมูล เมื่อเราศึกษาดูรูปแบบในการเข้ารหัสที่หลากหลายจะพบว่า มักจะโจมตีในลักษณะช่องโหว่ที่ซ้ำๆ กัน ได้แก่

  • แฝงมากับโฆษณาบนเว็บไซต์ อย่าเผลอไปคลิกโฆษณาใดๆ บนหน้าเว็บที่ไม่มีความน่าเชื่อถือเด็ดขาด!

  • แฝงมากับอีเมลในรูปไฟล์ของไฟล์ เช่น invoice / zip / doc แต่เมื่อเปิดขึ้นมา มักจะเป็นไฟล์ exe เพื่อเริ่มการเข้ารหัสข้อมูลของเราทันที

  • ลักลอบเข้ามาผ่าน Protocol ที่เปิดให้มีการใช้งานในรูปแบบของการ Share File / Map Network Drive

  • ลักลอบเข้ามาผ่าน Device ต่างๆ เช่น Disk หรือ USB Drive พกพา

เมื่อถูกโจมตี ควรจ่ายเงินหรือไม่ ?

ไม่ควรโดยเด็ดขาด เพราะไม่มีอะไรสามารถการันตีได้ว่า เมื่อคุณจ่ายเงินให้กับ Hacker แล้ว คุณจะได้ข้อมูลของคุณคืนมา อาจจะถูกหลอกให้จ่ายเงิน ซวยซ้ำซวยซ้อนไปได้อีก

ป้องกัน Ransomware บน Windows Server ได้อย่างไร ?

  • คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานหรือเซิร์ฟเวอร์ ควรติดตั้ง antivirus ที่น่าเชื่อหรือแบบ internet security.

  • Update Patch ของระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ

  • เปิดระบบ Daily & Realtime Scan บน Antivirus

  • อย่าปิด Firewall โดยเด็ดขาด เปิด Port เท่าที่จำเป็นในการใช้งาน

  • ไม่เปิด Protocol ที่ใช้ในการแชร์ไฟล์โดยเด็ดขาด เช่น NFS / SMB หากจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรจัด Security Group ของ Network คนละวงกันกับ Windows Server เครื่องอื่นๆ เช่น ควรแยกกลุ่มของ File Server ออกจากการใช้งาน Database Server หรือ Web Server

  • เปิดสิทธิ์ระดับ User เท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน ไม่ควรเปิด Full administrator สำหรับทุก User

Last updated